สัตว์แปลกเลี้ยงได้ แต่ละชนิดนั้น จะเลี้ยงคล้ายกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ที่เราเคยเลี้ยงกันไหมนะ

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ รวมสัตว์เลี้ยงสุดแปลก ที่สามารถเลี้ยงที่บ้านได้ มาดูกันต่อดีกว่า

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ มีทั้งสัตว์ที่ติดไซเปสและนอนไซเปส จะมีสัตว์แปลกเลี้ยงได้ชนิดไหนบ้างมาติดตามกัน เรื่องราวเกี่ยวกับ exotic pet ในไทย ซึ่งก็มีมากมายหลายชนิดnfl fan shop nike air max 270 custom team jerseys basketball colored lace front wigs Lace Wigs adidas yezzy boost 350 v2 custom nfl jerseys adidas yeezy foam runner mens stores dallas cowboys nfl nike air max mens online wig store human hair lace front wigs colored lace front wigs nfl fantasy nfl apparel

สัตว์เลี้ยงสุดแปลก แต่ละชนิดนั้น ก็จะเลี้ยงคล้ายกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ที่เราเคยเลี้ยงกัน ยกตัวอย่างเช่น สัตว์มีปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือว่าจะเป็นสัตว์เลื้อยคลานก็ตาม

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ โดยส่วนใหญ่แล้วก็มีทั้ง exotic pet ราคาถูก และราคาแพง

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ ครั้งนี้มาดูกันดีกว่า exotic pet มีอะไรบ้าง ในประเทศไทย

รีวิวสัตว์ในบ้านแปลกๆ ขอเริ่มต้นกันที่ สัตว์แปลกเลี้ยงได้ จิ้งจอกจิ๋ว หรือว่า Fennecfox ซึ่งเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลกเลย และจิ้งจอกชนิดนี้ เป็นจิ้งจอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก

ในทุก ๆ ปี ช่วงเดือนธันวาคม – ถึงเมษายน จะเป็นฤดูผสมพันธุ์ ก็จะเป็นฤดูของการ ออกลูกของ เฟนเนคฟ็อก แต่ก็ขึ้นอยู่กับเขตที่อาศัยด้วยนะ

เฟนเนคฟ็อกออกลูกแค่ปีละ 1 ครั้ง และออกน้อยมากเพียง 1-3 ตัวเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีการนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ มาจากประเทศซูดาน และประเทศอียิปต์ หากเลี้ยงไว้นอกบ้าน ก็จำเป็นต้องมีทรายให้เขาด้วย

ควรจัดโซนให้เขา ควรมีความเงียบสงบนิดนึง เนื่องจากเขาเคยอาศัยอยู่ที่กว้างใหญ่ หากพวกมันมีลูก แล้วมีสิ่งรบกวน อาจจะส่งผลให้มันไม่เลี้ยงลูกได้

สำหรับคนที่รักสุนัขทั่วโลก ที่ไม่อยากเลี้ยงสุนัขธรรมดา อยากหาความแปลกใหม่ อยากได้สุนัขตัวเล็ก ๆ ขนาดกะทัดรัด แล้วก็สามารถเลี้ยงในพื้นที่ ที่มีขนาดจำกัดได้ เลี้ยงในคอนโด หรือว่าบ้านจัดสรร สามารถเลี้ยงได้หมดเลย

มาดูวิธีการเลี้ยง เจ้าเฟนเนคฟ็อกกันดีกว่า ควรเตรียมอะไรให้เขากันบ้าง

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ ด้วยความที่มันให้กำเนิดลูก เพียงแค่ช่วงเมษายนเท่านั้น ก็เลยถือว่าเป็น สัตว์เลี้ยงแปลก ๆ ที่ค่อนข้างหายาก ด้วยความที่ออกลูกแค่ปีละครั้งเอง

สำหรับถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมัน อยู่ที่ประเทศแอฟริกา ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นทะเลทราย อย่างทะเลทรายของซาฮาร่า นามีเบีย ประเทศอียิปต์ แล้วก็ซูดาน

ลูกของมันอายุ 1 เดือนนั้น ตัวเล็กมาก ถ้าเทียบก็เท่ากับ หมาพันธุ์ชิวาวาไซซ์ทอย โตเต็มที่มีขนาดแค่ไม่เกิน 2 กิโลกรัมเอง มาดูที่ความสามารถพิเศษ ของเจ้าเฟนเน็คฟ็อกกัน ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

อย่างแรกคือ สามารถกระโดดได้สูงสุด 1 เมตร 50 เซ็นติดเมตร ถ้าเทียบกับมนุษย์ก็เท่ากับมนุษย์โดดขึ้นตึก 3 ชั้นได้เลย ใครที่ดูแลก็ต้องระวังดี ๆ ควรจะเป็นคอกที่ปิด เพื่อป้องกันมันกระโดดหนีออกจากคอก

2. สามารถขุดโพรงลึกลงไปใต้ดิน มีขนาดใหญ่กว่า 120 ตารางเมตร หรือประมาณที่จอดรถคันเล็กๆได้ 1 คัน และในโพรงนั้น จะมีซอกซอยมีทางเข้าออกมากถึง 15 ทาง เพื่อป้องกันตัวจากสำนักล่าตัวอื่น ๆ

3. ก็คือพวกมันสามารถ อดน้ำได้หลายวัน เนื่องจากน้ำที่หาได้ในทะเลทราย แทบจะไม่มีเลย โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมาจากเหยื่อ แล้วก็มาจากพืชทะเลทรายเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเฟนเนคฟ็อกแต่ตัวเล็ก แต่ก็มีอายุที่ยืนมากถึง 14-15 ปีเลยทีเดียว หากเทียบกับหมาพันธุ์เล็กทั่วไป 10 ปี ก็แก่แล้ว พวกมันเป็นสุนัขจิ้งจอกขนาดเล็ก ที่เลี้ยงง่าย อาหารการกิน ก็เหมือนกับสุนัขทั่วไปเลย นั่นก็คืออาหารเม็ด

อาจจะมีพวกเนื้อสัตว์อื่น ๆ ให้ เช่น ไก่บดหรือว่าไก่สด ไข่ต้ม นม แมลง หรือว่าเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ สามารถให้กินได้หมดเลย กรงที่จะให้อยู่ ก็เป็นกรงสุนัขตาถี่ทั่วไป เนื่องจากว่าพวกมันมีขนาดเล็ก อาจจะหลุดลอดออกไปจากกรงได้

หากเป็นกรงที่มีซี่เล็ก จะช่วยป้องกันมันหลุดออก แล้วก็ป้องกันขาของพวกมัน เข้าไปติดในกรงได้ด้วย อุปกรณ์ที่ควรมีก็คือ กรง ชามอาหาร ขวดน้ำ แล้วก็บ้านให้พวกมันนอน

ซึ่งสามารถใช้แบบเดียวกันกับของสุนัขทั่วไปได้เลย ลูกก็เหมือนสุนัขทั่วไป ก็ควรจะฉีดวัคซีนให้ เหมือนกับสุนัขทั่วไปนั่นเอง สำหรับการพาออกไปข้างนอกนั้น ก็พาไปได้

แต่ก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ควรจะดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมันมีอยู่ที่ใหญ่ไปในสถานที่ที่มีเสียงดังก็อาจตกใจได้ง่าย

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ เฟนเนคฟ็อกจัดอยู่ในบัญชีไซเตรสที่ 2 ผู้เลี้ยงจะต้องมีใบอนุญาตในการเลี้ยง มีไมโครชิปที่ทางราชการออกให้ ค่าตัวของพวกมันเริ่มต้นที่ 65,000 บาท

ก็ถือได้ว่าเป็น Exotic Pet ราคา สุูงพอสมควร แต่หากเทียบกับความน่ารักของมัน ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยล่ะ ใครอยากเลี้ยงก็ต้อง ศึกษาวิธีดูแลแล้วก็เลี้ยงพวกมัน อย่างพิถีพิถันด้วยนะ

สัตว์เลี้ยงที่สามารถเลี้ยงไว้ดูเล่น หรือว่าเลี้ยงไว้ล่าสัตว์อื่นเพื่อประกอบอาชีพได้จะเป็นสัตว์อะไร

มาต่อกันที่ exotic pet น่าเลี้ยง สัตว์แปลกเลี้ยงได้ อีกตัวหนึ่ง คราวนี้มากันที่สัตว์ปีกบ้าง สัตว์ปีกที่ว่านี้ก็คือเหยี่ยวนั่นเอง

สำหรับสัตว์เลี้ยงชนิดนี้ ก็เป็นหนึ่งใน exotic pet เลี้ยงง่าย ชนิดหนึ่งเลยทีเดียว และในไทยก็นิยมเลี้ยงกันหลายสายพันธุ์ ได้แก่เหยี่ยวแฮรีสฮอร์ค เลี้ยงง่ายราคาจับต้องได้

เหยี่ยวเพเกรกริน ที่บินล่าบนอากาศได้ดี ซึ่งฟาร์มที่ขาย นกเหยี่ยวนั้นก็มีหลายฟาร์ม สามารถหาได้ไม่ยากเลย ใครที่เลี้ยงก็ควรจะมีอุปกรณ์ สำหรับเลี้ยงเดี่ยวได้แก่ คอนเหยี่ยว ชุดล่ามขา ถุงมือใส่จุดฝึกเหยี่ยว แล้วก็อาหาร

และยังรวมไปถึงอาหารเสริมด้วย ซึ่งจะมีให้เลี้ยงหลัก ๆ อยู่ 2 สาย ก็คือ ขายสำหรับล่าสัตว์ แล้วก็สายที่เลี้ยงไว้ดูเล่น และเหยี่ยวในประเทศไทยนั้น หากนำมาเลี้ยงก็ผิดกฎหมาย ควรจะเลี้ยงเดี่ยว ที่นำเข้ามาและมีใบรับอนุญาต สำหรับเลี้ยงเหยี่ยวอย่างถูกต้อง

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ ซึ่งใบอนุญาตนั้น ก็จะออกโดยกรมป่าไม้นั่นเอง ราคาเริ่มต้นของนกเหยี่ยวนั้น อยู่ที่ 30,000 บาท จนไปถึงราคาหลักล้านเลยก็มี สำหรับบางสายพันธุ์

ส่วนใหญ่แล้วคนเลี้ยงเดี่ยว ก็ต้องจ่ายค่าอาหารกันหนักซะหน่อย เนื่องจากอาหารที่พวกมันกินนั้น ก็มักจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก และยังต้องมีอาหารเสริม ให้กับพวกมันอีกด้วย

มาดูอาหารสำหรับเลี้ยงเดี่ยวกันดีกว่า ว่าจะมีอะไรกันบ้าง อย่างแรกเลยก็คือหนูนา สามารถหาซื้อได้จากร้านที่ขายหนู หรือว่าซื้อมาจากร้านเลี้ยงนกนั่นเอง การจะให้หนูนานั้น ก็ควรจะให้แบบติดกระดูกด้วย

เพื่อที่เจ้าเหยี่ยว จะได้มีแคลเซียมที่เพียงพอ อีกอย่างหนึ่งที่สามารถหามาได้ โดยแทบไม่ต้องลงทุนเงินเลยก็คือ นกตามธรรมชาติที่หามาได้

ไม่ว่าจะเป็นพวกนกกระจอก นกพิราบ หรือว่านกกระจิบ จิ้งจกที่อยู่ตามบ้าน กิ้งก่าตามธรรมชาติ ลูกเจี๊ยบแช่แข็ง กบเขียดก็สามารถให้นกเหยี่ยวกินได้เช่นกัน

และเหยี่ยวบางสายพันธุ์นั้นกินเนื้อปลาด้วย หรือว่าจะเป็นงูขนาดเล็กก็ได้ด้วยนะ สำหรับกรงที่อยู่อาศัยของมันนั้น ก็จะแตกต่างจากของนกทั่วไปนิดหน่อย ควรจะหากรงที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้มันมีพื้นที่บินเล่น

ใครที่จะเลี้ยงเดี่ยวนั้น ก็ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว อาหารการกินดูจะสำคัญกับพวกมันมาก ซึ่งก็มีทั้งอาหารหลัก แล้วก็อาหารเสริม หากเหยี่ยวมีอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็อาจจะส่งผลให้พวกมัน มีปีกมีขาที่ไม่แข็งแรงได้

ปิดท้ายกันด้วย สัตว์ เลี้ยงอะไร ไม่ต้องดูแลมาก ที่น่ารักอีกชนิดหนึ่ง จะน่ารักมากขนาดไหน ตามมาเลย

มาต่อกันด้วย exotic pet สัตว์แปลกเลี้ยงได้ ตัวที่ 3 ซึ่งก็คือแรคคูนนั่นเอง สำหรับแรคคูนนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ อเมริกา แล้วก็อเมริกาใต้ เป็นสัตว์ประจำถิ่นของอเมริกาเลย เรามักจะพบเห็นแรคคูนได้ ตามสวนหลังบ้าน หรือว่าสวนสาธารณะ ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

เมื่อก่อนนั้นแรคคูน ก็จะหากินตามลำธารในป่า แต่เมื่อมนุษย์รุกล้ำพื้นที่ ของพวกมันมากขึ้น ก็เลยเห็นพวกมันนั้น มาหากินตามถังขยะ หรือว่าบริเวณบ้านของนั่นเอง ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงใกล้ชิดกับผู้คนมาก และมีความคุ้นเคยกับคน

จึงทำให้มันเรียนรู้ แล้วก็ปั่นพฤติกรรมให้มีความฉลาด แล้วก็เอาตัวรอด ในสถานที่ที่โหดร้ายแรคคูนนั้นออกหากินในเวลากลางคืน แต่ประสาทสัมผัส ที่ดีเยี่ยมที่สุดของมันอยู่ที่มือ เนื่องจากฝ่ามือของพวกมัน ประกอบไปด้วยเส้นเลือดจำนวนมาก

เอาไว้หาอาหารแทนดวงตา มันจะคลำทางเพื่อหาอาหารไปเรื่อย ๆ แรคคูนนั้นมีความฉลาดมาก ความฉลาดของพวกมันนั้น ใกล้เคียงกับสุนัขเลย พฤติกรรมเด็ด ๆ ที่มุ่งมั่นทำนั้น ก็มีหลายอย่างมาก

เช่น การเปิดกรงด้วยตนเอง การเอาของไปซ่อน การเอาสิ่งของไปล้างน้ำ ก่อนจะเอามาเล่นทุกครั้ง

นี่เป็นพฤติกรรมของพวกมัน ตามธรรมชาติ ซึ่งแรคคูนนั้นมี IQ และ EQ ค่อนข้างมีเหมาะสำหรับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีได้เลย สำหรับแรคคูนตามธรรมชาตินั้น มีอายุขัยแค่ 3-5 ปีเท่านั้น

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ สำหรับแรคคูนเลี้ยงนั้น อายุขัยของพวกมันนั้น ที่พบเจอได้สูงสุดถึง 21 ปีเลยทีเดียว

พวกมันสามารถที่จะสื่อสาร ทางเสียงได้มากถึง 50 เสียงเลย ซึ่งเราจะได้ยินเสียงจากพวกมันแตกต่างกัน ก็เป็นการสื่อสารที่คล้ายคลึง กับการพูดของมนุษย์

นิสัยของพวกมัน ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้เล่น แล้วก็ซ่ามาก ๆ เลย ใครที่ชอบสัตว์เลี้ยงที่จับเต็มไม้เต็มมือ และก็เล่นได้อย่างสนุกสนานมัน ๆ แนะนำให้เลี้ยงแรคคูน

สำหรับใครที่ต้องการเลี้ยงแรคคูนนั้น อาหารที่ให้พวกมันนั้น ก็หาไม่ได้ยากเลย โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะเป็นอาหารแมว ผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย แอปเปิล มะละกอ แล้วก็ควรเสริมด้วยโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์

จะเป็นเนื้อสัตว์สด หรือว่าเนื้อสัตว์ต้มก็ได้ ไข่ต้มแล้วก็แมลงต่าง ๆ พวกมันกินอาหารได้หลากหลายมาก ยกเว้นอาหารที่มีรสเค็ม หรือว่ารสเปรี้ยวเกินไป พวกมันจะไม่ชอบ และอาจส่งผลให้ พวกมันท้องเสียได้ ไม่ควรให้อาหารลักษณะนั้น

สามารถปล่อยให้พวกมัน วิ่งเล่นในสนามหญ้าได้ แต่ก็ควรจะดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพวกมันอาจจะปีนรั้ว หรือว่าหรือปีนกำแพงออกไปนอกบ้านได้ สามารถจูงพวกมัน ไปเดินเล่นข้างนอกได้ แต่ก็ควรใส่สายไว้ที่หน้าอกของพวกมันด้วยล่ะ

เนื่องจากพวกมันนั้น ใช้มือเก่งสามารถแกะออกได้ จึงไม่ควรใส่สายไว้ที่คอนั่นเอง ข้อควรระวังในการเลี้ยงก็คือ เวลาที่มันไปเกาะบริเวณไหนแน่น ๆ ซึ่งเราไม่อยากให้มันเกาะบริเวณนั้น ก็ไม่ควรใช้วิธีรุนแรง โดยการดึงมันออกมา

ต้องใช้วิธีที่นุ่มนวล เนื่องจากมือของพวกมันก็บอบบางมาก และป้องกันการที่พวกมันจะหันมากัดด้วย สามารถนำมาใส่เสื้อผ้า หรืออาบน้ำเหมือนกับสุนัขทั่วไป

สำหรับสีดั้งเดิมของแรคคูนนั้น ก็คือสีดำสีน้ำตาล แต่เมื่อซื้อแรคคูนมาจากฟาร์ม ก็อาจจะพบเจอได้หลากหลายสีเนื่องจาก มีการพัฒนาสายพันธุ์แรคคูนเกิดขึ้น

อย่างเช่น สีช็อกโกแลต สีแชมเปญ สีโกโก้ โดยรวมแล้วก็จะมีโทนสีเข้ม กับสีอ่อนนั่นเอง พวกมันสามารถติดโรค จากสุนัขและแมวได้ อย่างเช่นโรคพิษสุนัขบ้า ลำไส้อักเสบ โรคหัด แล้วก็พยาธิต่าง ๆ

ดังนั้นการจะเลือกซื้อแรคคูน ควรเลือกจากร้านหรือฟาร์ม ที่เชื่อถือได้ ยกตัวอย่างเช่น ร้าน Exotic Pet จตุจักร

สัตว์แปลกเลี้ยงได้ ชนิดนี้สามารถเลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งก็คือเป็นสัตว์ที่ ไม่ติดสเปซใด ๆ เลยนั่นเอง สามารถเลี้ยงได้ เหมือนกระต่ายหมาแมวทั่วไป โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต

สำหรับค่าตัวของพวกมันนั้น เริ่มจากสี Standard ก็จะอยู่ที่ 35,000 บาท ถ้าเป็นสีพิเศษก็จะเพิ่มมูลค่าทีละ 5,000 บาทขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น สีแชมเปญก็จะอยู่ที่ 4 หมื่น สีอัลบิโน่ 45,000 บาทประมาณนี้

สำหรับสัตว์ทั้งหมด ที่มีในวันนี้นั้น ก็ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงอะไร ที่ต้องดูแลมากนัก แต่ถ้าส่วนใหญ่แล้ว พวกมันก็ต้องการ การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ แล้วก็มีข้อควรระวังหลายอย่าง เพราะอย่างนั้นแล้ว หากจะเลี้ยงพวกมัน ก็ควรจะศึกษาข้อมูล

แล้วก็มีเวลาดูแลเอาใจใส่พวกมันให้เหมาะสม โดยส่วนใหญ่สัตว์พวกนี้ สามารถเลี้ยงเป็น Exotic Pet ขาย ได้เลย หากคุณรู้จักพวกมันมากพอ และตั้งใจที่จะเลี้ยงพวกมัน เพื่อจำหน่ายอย่างแท้จริง

สำหรับในครั้งหน้า เอาใจเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหา ยานยนต์แห่งอนาคตน่าขับ เพื่อจะเดินทางไปคู่กับสัตว์เลี้ยงคู่ใจ เอาไว้เป็นทางเลือก และแน่นอนว่า ยังมีไอเทมดี ๆ อย่าง sony-เปิดตัวหูฟัง อีกด้วย

และหากใครที่ เป็นแฟนนิยายชื่อดังของ จินอวี้เฉิง ห้ามพลาดกับรีวิวเด็ด ๆ จาก รีวิว-Blossoms-Shanghai เรื่องนี้กันเลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า สวัสดีจ้า

เขียนโดย อลิส