สัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ ตัวนุ่มนิ่ม หน้าตาน่ารัก ๆ ที่จะทำให้คุณไม่สามารถอดใจหลงรัก เจ้าสัตว์ตัวน้อยเหล่านี้ ได้อย่างหมดหัวใจ
สัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ เรื่องราวที่แสนน่ารู้ ก่อนจะนำหนูแฮมสเตอร์ มาเป็นเจ้าของกัน
ว่าด้วยเรื่องของหนูแฮมสเตอร์ ความจริงแล้วพวกมัน ก็ไม่ใช่หนูธรรมดาหรอกนะ
เลี้ยงอะไรดี ในห้อง เล็กๆ ใช่ว่าจะให้อาหาร อะไรก็ได้กับมัน และมั่นใจได้เลยว่า คนที่รักและตั้งใจเลี้ยง ก็อยากให้พวกมัน อยู่กับเราได้นานที่สุด
และการศึกษาแค่วิธีเลี้ยงพวกมัน ก็คงจะไม่เพียงพอหรอกนะ และถ้าจะให้ดีก็ควรจะศึกษาหาความรู้ ก่อนที่จะซื้อพวกมัน จากร้านขายกันก่อนนั่นเอง
และข้อมูลดังกล่าวก็ได้ เลี้ยงอะไรดี ตัวเล็ก เราทำการรวบรวมเอาไว้ ให้ทุกท่านได้ ทำความเข้าใจกันแล้ว มากันที่วิธีการในการเลือกซื้อกันก่อน
วิธีในการเลือกซื้อหนู วิธีการจะเป็นอย่างไร บอกเลยว่าไม่ยาก เรามาศึกษาเรื่องของ สายพันธ์ุของหนูชนิดนี้กันก่อน เพื่อจะได้เปรียบเทียบ ทั้งข้อดีและข้อเสีย ว่าจุดไหนที่ชอบ หรือว่าไม่ชอบ
เลี้ยงอะไร ในบ้าน ก็มาเลือกสายพันธ์ุ สัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ ที่คุณพอใจกัน หลังจากนั้นก็ไปหา ตามร้านขายสัตว์เลี้ยง และนี่ก็เป็นแพทเทิร์น ในการเลือกที่ดี และเหมาะสมมากที่สุดแล้ว ในขณะที่ไปเลือกร้าน ควรเลือกร้านที่ มีกรงแบ่งชัดเจน
ให้ตัวผู้กับตัวเมีย อยู่คนละที่กัน และถ้าไม่มีก็หาร้านที่สามารถ ระบุเพศของหนูได้ และเมื่อได้ตัวที่ ถูกใจกันแล้ว ก็ถามเรื่องอายุของมัน
สัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ โดยที่อายุที่เหมาะสม ก็ควรจะอยู่ในช่วง 4 สัปดาห์ และความสะอาด ก็ควรจะมีตลอดทั้งตัว
สามารถดูได้ตั้งแต่ ส่วนหูจนไปถึงส่วนหาง จุดที่ต้องพิจารณาต่อไป นั่นก็คือขนาดของลำตัว และหนูแฮมสเตอร์ที่ดูแล้วเหมาะสม ควรจะอยู่ที่ประมาณ 5-7 นิ้ว สำหรับขนาดนี้คือ ซีเรียนแฮมสเตอร์ และสำหรับแฮมสเตอร์
แคมเบลท์ รัสเซียนและ วินเทอร์ไวท์รัสเซียน ก็ควรอยู่ที่ 3 นิ้ว และหากเป็นไชนีสแฮมสเตอร์ ก็ควรมีขนาด 3-5 นิ้ว แล้วก็โรโบรอฟกี้ ก็ควรจะเล็กกว่า 2 นิ้ว และจุดสำคัญมากที่สุด ก็ควรหาซื้อพวกมัน ในช่วงเวลาเย็น
หรือจะเป็นตอนค่ำก็ได้เช่นกัน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่พวกมัน มีการตื่นตัว อย่างมากที่สุด
ช่วยให้ง่ายต่อการสังเกตนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเฉพาะ ของแต่ละตัวที่จะ เหมาะสมกับตัวผู้เลี้ยง ได้แบบแม่นยำ
และเมื่อมีหนูแล้ว ก็จะต้องมีบ้านของมัน โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกรง และการจะเลือก บ้านให้เหมาะสมนั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
โดยที่เคล็ดลับนั้น จะอยู่ที่การเลือกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกรงต่าง ๆ หรือว่าจะเป็นวัสดุรูปแบบอื่น
ให้พอดีกับ หนู ที่เราได้ซื้อมา ซึ่งขนาดนั้นควรจะไม่ใหญ่ หรือว่าไม่เล็กจนเกินไปนั่นเอง และโดยส่วนใหญ่แล้ว บ้านของพวกมันที่เหมาะกับทุกสายพันธุ์ ซึ่งสามารถป้องกัน พวกมันหลุดออกไปได้
ก็มักจะเป็นแบบตู้กระจก ขนาดของตู้กระจกนั้น อย่างน้อยที่สุดก็ควร มีขนาด 3 ฟุต ขึ้นไป เพื่อให้พวกมันนั้น ได้วิ่งออกกำลังกายบ้าง
มีพื้นที่ให้วางทั้งน้ำแล้วก็อาหาร แล้วก็อุปกรณ์สำหรับฝึกทักษะต่าง ๆ ให้สามารถวิ่งหนีจาก เหล่าศัตรูได้
และในส่วนของบริเวณ สำหรับวางบ้านของมัน ควรเป็นพื้นที่ที่มี ความเงียบสงบสักหน่อย ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือว่าแมวก็ตาม หรือจะเป็นอย่างอื่นที่ ส่งผลต่อความเครียดของมัน
และหากต้องการใช้ กรงแบบปกติธรรมดา ควรที่จะตรวจเช็ก แต่ละชิ้นส่วนให้ดี ว่าแต่ละจุดนั้น ไม่มีการชำรุด หรือว่ามีส่วนที่ปิดสนิท หรือไม่มีส่วนใดที่ พวกมันสามารถเปิดออกเองได้
ในส่วนของซี่กรง ระยะห่างก็ควร ไม่มากกว่า 1 เซนติเมตร เพื่อป้องกันพวกมันหลุดออกมาการเลือกที่อยู่ของ หนูแฮมสเตอร์ แล้วก็ การจัดน้ำอาหารให้พวกมัน จะเป็นอย่างไร
ในช่วง 2-3 วันแรก
หลังจากที่ได้ซื้อมาแล้ว ก็ควรจัดให้มันได้อยู่ ในบ้านของพวกมันทันที ในบ้านก็ควรจะมีทั้งน้ำและอาหารพร้อมสรรพ ปล่อยให้พวกมันได้อยู่ แต่เพียงลำพังประมาณ 2-3 วัน และยังไม่ควร ชวนพวกมันเล่นในช่วงนี้
เนื่องจากสภาวะ ของมันในตอนนี้ ก็คือมีอาการเครียด หลังจากที่ถูกแยกออกมาจากฝูงเดิมนั่นเอง และหากมีใครมาเยี่ยม ที่บ้านของคุณในช่วงนี้ ก็ไม่ควรให้ไป รบกวนหนูมากเกินไป อาจส่งผลให้มันกัดได้
สำหรับผู้เลี้ยงก็คอยให้น้ำให้อาหาร หรือจะเปลี่ยนที่นอนไปก่อน ก็สามารถทำได้ ในช่วงนี้ และเมื่อมันได้ทำความคุ้นชินกับ บ้านใหม่ของมันแล้ว ผ่านไปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ก็ลองนำมือไปแตะ โดยการยื่นเข้าไป ในบ้านของมันนั่นเอง
ดูว่าท่าทีของมัน มีพฤติกรรมอย่างไร หากไม่มีอาการต่อต้านหรือว่าก้าวร้าว ก็ให้มันสำรวจมือ ของคุณหรือว่าให้มันดมได้เลย จากนั้นลองนำ อาหารไปยื่นให้กับมันโดยตรง แทนการวางไว้เฉย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน
หาเวลาเล่นกับพวกมัน และให้มันได้พักผ่อน ตามเวลาจริงที่พวกมัน ควรจะได้พักหรือว่า ตามวงจรชีวิตนั่นแหละ อีกทั้งยังไม่ควร ให้ใครมาเล่นในตอนนี้
เนื่องจากมันจะคุ้น กับมือของเจ้าของเท่านั้น ในส่วนของการ ให้น้ำแล้วก็อาหาร
ก็ควรมีเครื่องให้น้ำ สำหรับมันโดยเฉพาะ เนื่องจากการดื่มน้ำ ในแต่ละครั้งของมัน ก็ไม่ได้มากมายนัก ถือว่าน้อยมาก ไม่ควรจะให้น้ำเป็นถ้วย อาจส่งผลให้มัน เกิดอาการสำลักได้ แล้วน้ำที่ให้ก็ควร จะเปลี่ยนทุกวันด้วยนะ
และหากทิ้งไว้ ก็ไม่ควรนานเกิน 3 วันนั่นเอง และการให้อาหาร ไม่ควรจะให้ปริมาณที่มากเป็นถ้วย เนื่องจากจะส่งผลให้น้ำหนักตัว ของพวกมันนั้น มีมากจนเกินไปนั่นเอง และอาจทำให้มัน ไม่ค่อยสนใจ กิจกรรมอื่น ๆ
นอกไปจากการกิน ดังนั้นแล้วก็ควร ให้อาหารแบบโรยให้ทั่ว เพื่อให้มันได้ทานแบบหนูตามธรรมชาติ มีการกระตุ้นบ้าง และในส่วนของอาหารเสริม ก็ควรจะมีจำนวน 2-3 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์
เลี้ยงอะไร ไม่ต้องดูแลมาก สำหรับอาหาร ควรจะเป็นพืช ผลไม้ พวกมะเขือเทศ แตงกวา แอปเปิล แล้วก็แครอท และอาหารที่ ไม่ควรให้พวกมัน ก็คืออาหารของมนุษย์
พื้นที่สำหรับ ให้พวกมันได้วิ่งเล่น แล้วก็การดูแลอื่น ๆ จะเป็นแบบไหนกัน
ในส่วนของการ ทำความสะอาดบ้าน ก็ใช้แค่เพียงน้ำสะอาด ก็เพียงพอแล้วล่ะ
เนื่องจากการใช้พวก น้ำยาทำความสะอาด หรือว่าใช้น้ำสบู่ อาจจะส่งผลให้ มีพวกสารเคมีตกค้าง และส่งผลให้เกิด อันตรายต่อพวกมันได้
หากพวกมันเผลอ ไปเลียหรือว่าไปกัดกรงเข้า และที่นอนที่ใช้แล้ว ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ ควรจะนำผ้าใหม่ มาปูเป็นที่นอนนั่นเอง
และหากเป็นกรงทั่วไป ก็ปูเพียงแค่ 3 ชั้น ก็เพียงพอแล้วล่ะ และถ้าเป็นตู้กระจก การปูพื้นก็ควรจะหนาประมาณ 4-5 ชั้น โดยประมาณ
และไม่ควรนำเศษไม้มารองเป็นพื้น เนื่องจากอาจจะมี สารเคมีหรือว่าน้ำมัน ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อพวกมันได้ และสิ่งสำคัญนั่นก็คือ บริเวณที่จะให้พวกมันได้วิ่งเล่นนั้น
ก็ควรจะมีความสะอาด ไม่มีสิ่งใดที่อาจจะ เป็นอันตรายต่อพวกมัน หรือไม่ควรมีทางที่พวกมันจะเล็ดลอด หนีออกไปได้นั่นเอง และถ้าเป็นไปได้ ควรมีสถานที่ให้มัน มากกว่าหนึ่งที่ ย่อมส่งผลต่อการตื่นตัว ของพวกมันได้ สร้างความสุขและ ก่อให้เกิดความสนใจได้มากกว่า
แล้วใครที่มีสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นอยู่ในบ้าน ก็ไม่ควรให้พวกมัน เข้ามาใกล้บริเวณของหนูแฮมเตอร์นั่นเอง เนื่องจากอาจส่งผล ให้แฮมสเตอร์มีความเครียด และอาจจะเจ็บป่วยได้
ซึ่งพวกมันก็มีโอกาส ที่จะเบื่อหรือว่ากัดบ้านของมันได้ เพื่อป้องกันพฤติกรรม ลักษณะดังกล่าวนี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งข้าวของ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของบ้าน หรืออาจจะพวกของเล่น หรือไม่ก็เพิ่มเติม ของเล่นเข้าไปได้
ส่วนที่ยกเว้น ก็เป็นกระบอกให้น้ำแล้วก็อาหาร และถ้าหาก แฮมเตอร์ มีอาการเครียด ไม่ว่าจะเป็นการ นอนหลับมากจนเกินไป หรืออาจจะเป็น ไม่ออกกำลังกาย หรือว่าอื่น ๆ ก็นำทุกอย่างกลับ ไปไว้ที่เดิม และถ้าจำตำแหน่งไม่ได้
ควรที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน ก่อนที่จะทำการเคลื่อนย้ายโลเคชัน ในบ้านของมันนั่นเอง
เลี้ยงอะไรดี ง่ายๆ หากแก้ไขด้วยวิธีดังกล่าวแล้ว ยังคงพบว่า อาการของพวกมันยังไม่ปกติ ก็ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ ด้วยความที่ว่าสัตว์ประเภทนี้
ก็ไม่ได้เชื่องจากการ ที่ถูกเลี้ยงมากนัก สิ่งสำคัญอย่างมากที่สุดสำหรับผู้เลี้ยง ก็คือความอดทน การใช้เวลาให้มันได้ ทำความคุ้นเคย ก็เป็นอะไรที่สมควร การเลี้ยงต่อจากนี้ก็ ไม่ใช่เรื่องที่ยากแล้ว
ติดตามบทความ เลี้ยงสัตว์ต้องรู้ และ สัตว์เลี้ยงยอดนิยม กันต่อได้ที่ >>>
เรียบเรียงโดย อลิส